จากนั้น ชายคนแรกจึงเอ่ยปากขอซื้อแก้วกระดาษเพิ่มอีกหนึ่งรายการ เจ้าของร้านจึงลุกขึ้นไปหยิบให้และคิดเงิน โดยคนร้ายทำทียื่นธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท ในรัชกาลที่ 10 เพื่อขอ
แลกเป็นธนบัตรฉบับละ 1,000 บาทในรัชกาลที่ 9 โดยอ้างว่าชื่นชอบและมีความศรัทธาในพระมหากรุณาธิคุณของ รัชกาลที่ 9 จึงอยากแลกเพื่อเก็บสะสมไว้ เจ้าของร้านยินยอมให้แลก พร้อมค้นหาธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท ในรัชกาลที่ 9 ส่งให้ โดยคนร้ายได้หยิบขึ้นไปดู ก่อนแจ้งกับเจ้าของร้านว่า พบธนบัตรมีรอยฉีกขาด จึงขอเปลี่ยนฉบับใหม่ ซึ่งจังหวะนั้น คนร้ายได้ทำทีเข้าไปขอเลือกธนบัตรเองโดยล้วงเงินในกระเป๋าของเจ้าของร้าน ตามพฤติกรรมคลิปที่ทางร้านบันทึกได้ เมื่อได้ธนบัตรตามที่ต้องการแล้วจึงออกจากร้านไปยังร้านค้าอื่นต่อ
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวฯ แจ้งว่า ที่ร้านค้าข้างเคียงกับร้านแรกคือร้านเจ้แนน (สงวนชื่อ-นามสกุล) ซึ่งจำหน่ายอาหารทะเล ก็พบกับคนร้ายชาวต่างชาติรายเดียวกัน ไปซื้อน้ำเปล่า 1 ขวด และซื้อน้ำมะนาว 1 ขวด และชำระเงินจนเสร็จคนร้ายได้หยิบธนบัตรฉบับละ 500 บาทในรัชกาลที่ 10 จำนวน 2 ใบ และสอบถามเจ้าของร้านว่ามีเงินธนบัตร 1,000 บาทในรัชกาลที่ 9 ให้แลกหรือไม่ แต่เจ้าของร้านบอกว่าไม่มี และบอกให้ไปขอแลกกับแม่ค้าข้างร้านอีกคน
แม่ค้าจึงได้ถามคนร้ายว่าธนบัตร 500 บาท ฉบับดังกล่าว เป็น
ธนบัตรปลอมหรือไม่ คนร้ายดังกล่าวจึงส่งให้ตรวจเช็คธนบัตร ทั้ง 2 ใบ จากนั้นเมื่อเช็คว่าเป็นธนบัตรฉบับ 500 บาทจริง จึงยอมให้แลกเป็นธนบัตรฉบับละ 1,000 บาทในรัชกาลที่ 9 ไป แต่คนร้ายแจ้งกับแม่ค้าว่าธนบัตรใบดังกล่าวฉีกขาด เเม่ค้ารายนี้จึงหยิบธนบัตรทั้งหมดที่ใส่ไว้ในชุดเอี้ยม และค้นหาใบใหม่ให้แลกไป และไม่ได้สนใจอะไร
เวลาถัดมาไม่นานนัก คนร้ายทั้ง 2 คน ได้กลับไปซื้อแก้วน้ำพลาสติก 12 ออนซ์ ที่ร้านค้าผู้เสียหายรายที่ 2 อีกรอบหนึ่ง โดยได้ชำระเงินในราคา 15 บาท แต่คนร้ายได้ยื่นธนบัตรราคา 20 บาท จำนวน 2 ใบ พร้อมทั้งบอกว่าไม่ต้องทอน ให้ทิปกับแม่ค้าที่ใจดี พร้อมเอ่ยขอแลกเธนบัตรอีกครั้ง โดยครั้งนี้มีธนบัตรหลายราคา ทั้งฉบับละ 100 บาท , 50 บาท และธนบัตร 500 บาทตามลำดับ พร้อมกับบอกเจ้าของร้านผู้เสียหายเหมือนเคยว่า รัก ชื่นชอบ และศรัทธาภูมิพล รัชกาลที่ 9 เหมือนกับครั้งแรก พร้อมทำทีพูดตีสนิทจนผู้เสียหายก็รู้สึกคล้อยตาม จากนั้นคนร้ายจึงทำทีช่วยเลือกธนบัตรเองในกระเป๋าแม่ค้า เมื่อได้ตามจำนวนแล้วก็ได้เดินออกจากร้านหายไป ดยไม่กลับมาอีก
กระทั่งมีลูกค้าที่ไปจับจ่ายในตลาดสดดังกล่าว สังเกตุเห็นพิรุธว่าชายชาวต่างชาติได้นำเงินใส่กระเป๋ากางเกงข้างซ้ายจำนวนหลายใบ โดยมีธนบัตรบางใบโผล่แล่บออกมา พร้อมทั้งเห็นจังหวะที่คนร้ายแอบ
ขโมยเงินขณะที่แลกเงินกับแม่ค้าด้วย จึงรีบไปบอกเจ้าของร้านผู้เสียหายให้ตรวจสอบเงินในกระเป๋าว่ามีอยู่ครบหรือหายไปหรือไม่ ซึ่งหลังตรวจสอบพบว่ามีเงินธนบัตร ฉบับละ 1,000 บาท ที่เคยมีอยู่กว่า 20,000 บาท เหลืออยู่เพียง 4,000 บาท จึงเอะอะโวยวายแจ้งให้คนออกช่วยกันออกตามคนร้ายแต่ก็ไม่พบตัวแต่อย่างใด
จึงได้กลับมาเช็คดูภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดไว้ในร้านตามเวลาที่เกิดเหตุโดยในภาพจากกล้องวงจรปิดสังเกตเห็นว่า ขณะที่คนร้ายเอื้อมมือไปเลือกธนบัตรในกระเป๋าผู้เสียหาย บางช่วงที่แม่ค้าเผลอได้แอบหยิบเงินใส่กระเป๋ากางเกง ซึ่งผู้เสียหายบอกกับผู้สื่อข่าวว่า ตอนนั้นตนรู้สึกตัว และมีสติที่ครบถ้วนสมบูรณ์ทุกประการ ไม่ได้ถูกป้ายยาตามที่เคยเห็นในข่าวแต่อย่างใด และเมื่อชาวต่างชาติไปพูดว่ารักและชื่นชมในหลวงรัชกาลที่ 9 ตนก็พลอยยินดีและดีใจไปด้วย พร้อมทั้งเอ่ยขอบคุณชาวต่างชาติด้วยที่รักและเทิดทูนในหลวงรัชกาลที่ 9
หลังเกิดเหตุการณ์นี้กับตนเอง แม่ค้าผู้เสียหายรู้สึกเสียใจมาก เพราะไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับตน รู้สึกเครียด กินไม่ได้นอนไม่หลับ กังวลใจ และระแวงตลอดเวลากับการเปิดร้านในทุกๆ วัน พร้อมเอ่ยอยากให้เหตุการณ์นี้เป็น
อุธาหรณ์ ช่วยเตือนภัยสังคมกับแม่ค้าร้านอื่นๆ ในอำเภอเถินหรือต่างจังหวัดให้ระวังและอย่าไว้ใจชาวต่างชาติที่มีพฤติการณ์ในลักษณะนี้โดยเด็ดขาด
เบื้องต้น เจ้าของร้านผู้เสียหายได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้กับตำรวจ สภ.เถิน พร้อมมอบภาพจาก
กล้องวงจรปิดไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งเห็นใบหน้าคนร้ายชัดเจน โดยพบว่าคนร้ายลักษณะดังกล่าวไม่ได้ก่อเหตุเพียงครั้งเดียว แต่พบว่าเคยก่อเหตุกับผู้เสียหายในพื้นที่ต่างจังหวัดก่อนหน้านี้ด้วย โดยตำรวจจะเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป….